คุณสมบัติทางเทคนิคของฝาบ่อที่สำคัญ

นวัตกรรมใหม่ในการพัฒนาฝาบ่อ จากเดิมที่ใช้ เหล็กหล่อสีเทา เป็นวัตถุดิบในการผลิต ที่มักประสบปัญหาแตกหักเมื่อได้รับแรงอัดและแรงกระแทก จึงมีการเพิ่มส่วนผสมอย่าง แร่แกรไฟต์ และ แมกนีเซียม เข้าไป โดยใช้อุณหภูมิหลอมเหลวอยู่ในช่วง 1300- 1450 ด้วยเทคโนโลยีในการผลิต ควบคู่กับวิศวกรรมการออกแบบที่เหมาะสม จึงออกมาเป็น เหล็กหล่อเหนียว ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อแรงอัดและแรงกระแทกสูง มีความยืดหยุ่นที่ดีกว่าเหล็กหล่อสีเทาแบบเดิม

12

ด้านการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เหล็กหล่อเหนียวสามารถขึ้นรูปชิ้นงานฝาบ่อที่มีความหนาได้ไม่จำกัดตามความต้องการ แข็งแกร่ง ทนทาน ยืดหยุ่น มีความเหนียว ลดปัญหาการแตกหักจากการติดตั้งบนถนนที่มีรถแล่นผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับมาตรฐานการทดสอบการรับน้ำหนัก EN124 เทียบเท่ามาตรฐาน ASTM ของสหรัฐอเมริกา สามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 2.5 ตัน ถึง 90 ตัน

ด้วยฝาบ่อน้ำหนักที่เบากว่าเหล็กหล่อแบบเดิมถึง 3 – 4 เท่า ทำให้สะดวกต่อการติดตั้งและขนย้าย และที่สำคัญมีราคาถูกกว่า จึงส่งผลให้เหล็กหล่อเหนียวชนิดนี้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหลายประเทศ ความนิยมใช้งานภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เป็นเหล็กหล่อเหนียว สามารถทนต่อแรงดึงได้ถึง 40 – 70 kg/mm2 มีคุณสมบัติการยืดตัว ถึง 8 – 25% ลักษณะโครงสร้างของเหล็กจะเป็นรูปทรงกลม จึงรับแรงกระแทกได้ดีกว่าเหล็กหล่อสีเทาที่มีโครงสร้างเป็นลักษณะแถบยาว